NRF โกยเงินสะพัดทุกทาง รับทรัพย์Plant-Basedโตพีค(07/05/64)

06 May 2021

มิติหุ้น – NRF โตแรงทุกช่องทาง ธุรกิจหลักผนึกกำลังทำเงิน หนุนกำไรปกติทั้งปีเติบโตมากกว่าเท่าตัว กูรูเคาะตัวเลขยืนระดับ 1.94 พันล้านบาท ผลบวกจากรายได้กลุ่ม Plant-Based ที่เติบโตสูง 144.4% เคาะ “ซื้อ” เป้าหมาย 11.20 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์  หรือ NRF ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร, อาหารสำเร็จรูป, อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนประกอบของไข่และนม, อาหารโปรตีนจากพืช ภายใต้แบรนด์บริษัท และการรับจ้างผลิต โดย “บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)” ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติของ NRF ในไตรมาส 1/64 ที่ 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง -44% จากไตรมาสก่อนหน้า

ทุกกลุ่มธุรกิจโตแรงถ้วนหน้า

สำหรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ บวกกับการรับรู้รายได้จากการซื้อ City Food เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก และการเริ่มรับรู้รายได้จาก Prime Labs ธุรกิจอาหารเสริมสำหรับผู้ชายยอดขายอันดับ 1 บน Amazon.com

ขณะที่การระบาดของ COVID-19 มีผลกระทบต่อบริษัทค่อนข้างจำกัด เพราะสัดส่วนรายได้ 84% เป็นการส่งออก และยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่า มีผลต่อกำไรประมาณ 6-7% ส่วนไตรมาส 2/64 จะเติบโตสูงจากการรับรู้รายได้ของออเดอร์ที่เลื่อนมา, ปัญหาตู้ Container คลี่คลายลง และโรงงานใหม่ของ P&B ได้อนุญาตจาก อย. ทำให้ส่วนแบ่งขาดทุนลดลง

คาดกำไรปกติปีนี้ทะยานมากกว่าเท่าตัว

ฝ่ายวิจัยคาดรายได้ในปี 2564 ที่ 1,943 ล้านบาท  เติบโต 37.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจาก 1) ธุรกิจ Ethnic โต 11.5% จากการได้พันธมิตรผู้จัดจำหน่ายใหม่ในสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ รวมถึงการรับรู้รายได้จาก City Food ได้เต็มปีคาดราว 300 ล้านบาท 2) กลุ่ม Plant-Based คาดรายได้ที่ 267 ล้านบาท เติบโตสูง 144.4% จากการรับจ้างผลิตเนื้อจำแลงให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น และ 3) Prime Labs สร้างรายได้ได้เต็มปีเป็นปีแรก

ทั้งนี้คาดว่ากำไรปกติในปี 2564 จะอยู่ที่ 270 ล้านบาท (+115% YoY) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่หลังการ IPO ทำให้บริษัทมีเงินทุนมากพอในการเติบโตผ่านการ M&A ซึ่งทำให้กำไรอาจเติบโตได้มากกว่าที่คาด จึงประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 11.20 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ซื้อ”

Source: www.mitihoon.com